เขื่อนน้ำอูนวิกฤติ - หนองหารเกินพิกัดแล้ว

จากการที่มรสุมพาดผ่านประเทศไทยทั่วทุกภูมิภาค ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของประเทศ รวมถึง จ.สกลนคร ก็ได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมดังกล่าวเช่นกัน โดยตลอด 3 วันที่ผ่านมาฝนตกลงมาคิดเป็นพื้นที่กว่าร้อยละ 80 ของจังหวัดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำตามธรรมชาติเกือบทุกแห่งเต็มความจุแล้วในปัจจุบัน โดยทะเลสาบหนองหารขณะนี้ก็เข้าขั้นวิกฤติแล้ว ซึ่งระดับน้ำในปัจจุบันเกินความจุไปอยู่ที่ร้อยละ 105 ของระดับกักเก็บ 256 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนน้ำอูนขณะนี้เกินระดับกักก็บอยู่ที่ร้อยละ 104 ไปแล้ว จากจำนวนความจุ 520 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ล้นปากกระโถน โดยในระดับนี้ถือว่าสูงที่สุดในรอบ 20 ปี ของเขื่อนน้ำอูนก็ว่าได้ และที่จุดนี้เองก็มีประชาชนเป็นจำนวนมากแห่เข้าเที่ยวชมความสวยงามของเขื่อนที่แฝงอยู่ในวิกฤติการณ์น้ำล้นเขื่อนอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของเทศบาลเมืองสกลนคร ก็ได้เร่งแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในเขตเทศบาลเมือง อย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน โดยปัญหาที่สำคัญอีกอย่างที่ทำให้เกิดน้ำท่วมในชุมชนเมืองนั่นก็คือ ปัญหาท่อระบายน้ำอุดตัน เรื่องนี้สังเกตุได้จากหากเกิดฝนตกลงมาเพียงชั่วระยะเวลา 1-2 ชม. ก็สามารถทำให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายจุดของตัวเมืองได้แล้ว ประกอบกับในช่วงนี้มีฝนตกหนัก ดังนั้นการขุดลอกท่อระบายน้ำจึงเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนที่เทศบาลต้องรีบดำเนินการ โดยนายบุญส่ง วิจักรษณบุญ รองนายกเทศมนตรีเมืองสกลนคร เปิดเผยว่า วันนี้เราได้นำรถดูดขยะมาดูดสิ่งปฏิกูลที่อยู่ในท่อระบายน้ำในชุมชนหนองสนม ซึ่งจากการสำรวจพบว่ามีปัญหาการอุดตันของขยะมูลฝอยจนทำให้น้ำเสียระบายได้ยากลำบาก บางจุดก็ไม่สามารถระบายได้เลย ประกอบกับฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องจึงเกิดน้ำท่วมขังได้ง่าย ทั้งนี้หลังจากการดูดขยะและสิ่งปฏิกูลออกไปจะทำให้การระบายน้ำในเขตชุมชนเมืองจะสามารถระบายได้คล่องตัวมากขึ้น หากชุมชนใดต้องการให้รถดูดไปดูดสามารถติดต่อได้ที่เทศบาลเมืองสกลนคร

รวบ 8 โจ๋ "ร.ร.ดังสกลนคร" เปิดรีสอร์ทมั่วยา เผยเรียกชื่อยาแก้ไอผสมว่า "ยาเคลิ้ม"

เมื่อวันที่ 15 กันยายน พ.ต.อ.จรัสพัฒน์ สุตยสรณาคม ผกก.สส.ภ.จว.สกลนคร ได้นำกำลังเข้าไปตรวจแห่งนึ่งกลางเมืองสกลนคร พบเยาวชนในรีสอร์ทแห่งหนึ่งกลางเมืองสกลนคร พบ 8 คน อายุระหว่าง 15 – 17 ปี เป็นชาย 3 คน และหญิง 5 คน ในชุดนักเรียนปักชื่อโรงเรียนชื่อดังในจว.สกลนคร กำลังมั่วสุมดื่มกินยาแก้ไอที่ผสมยาแก้ปวดชนิดเม็ดผงแค๊ปซูนสีเขียวเหลือง โดยใช้ดื่มพร้อมกับเครื่องดื่มน้ำหวานอัดลมตาม เพื่อให้เกิดอาการมึนเมาและกล่อมประสาท  ซึ่งมีอาการมึนเมาเล็กน้อย บางรายกำลังเบลอๆ  เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวทั้งหมดมาสอบสวนขยายผลที่กองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดสกลนคร ต่อมาจับกุมร้านขายยาคลังเภสัชในตลอดสดเทศบาล โดยมี นายอภิวิชญ์ ตันกิจเจริญ อายุ 33 ปีรับเป็นเจ้าของร้าน  ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดยาแก้ไอ ยี่ห้อเมคิด คัพ ไซรัป  3 กล่อง ยาแก้ปวดชนิดรุนแรง ยี่ห้อ ทินดอล  500 เม็ด จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกจับทราบว่า  “ขายยาอันตรายโดยไม่มีเภสัชกร”  ตาม  พ.ร.บ.ยาฯ  พ.ศ. 2510  มาตรา  21และข้อหา  “ยุยงส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร”  ผู้ถูกจับรับทราบข้อกล่าวหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และอ้างว่าไม่ทราบว่าเป็นยาควบคุม จึงได้ขายให้เยาวชน

เยาวชนรายหนึ่ง เปิดเผยว่า กลุ่มตนนั้นจะเรียกชื่อยาแก้ไอที่ผสมว่า ยาเคลิ้ม จะรวมกลุ่มหนีเรียนออกมากเช่าห้องพักแล้วซื้อหายากินกัน พอเริ่มมึนและบางทีมีอาการหลอนประสาทก็จะนอนพัก บางคู่ก็จะร่วมเพศสัมพันธ์กันเองในกลุ่ม  ซึ่งก็ทำกิจกรรมแบบนี้ 5- 7 ครั้งต่อเดือน  ก่อนมาถูกเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นได้ในครั้งนี้

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมดำเนินคดีเฉพาะผู้ประกอบการขายยาเท้านั้น  เนื่องจากกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 8 คน เป็นเยาวชน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำเพียงถ่ายรูปและบันทึกประวัติไว้เพื่อจัดเก็บเป็นข้อมูล และได้อบรมตักเตือนในสิ่งที่กระทำว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดี  ก่อนแจ้งให้ผู้ปกครองมารับทราบข้อมูลพฤติกรรมและรับตัวกลับบ้าน

สกลฯตำรวจรวบขบวนการลักลอบขนไม้พะยุง 2 วันติดต่อกัน ไม้ 61 ท่อน

      
 

      เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2554 ที่สถานีตรวจภูธรโคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร พล.ต.ต.อุดม จำปาจันทร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ บุญคง. ผกก.สภ.โคกศรีสุพรรณ พ.ต.ท.ทรงพล บริบาลประสิทธิ์ รอง ผกก.ปป.สภ.โคกศรีสุพรรณ. พ.ต.ท.พอง แพงไชย รอง ผกก.สส.สภ.โคกศรีสุพรรณ พร้อมพวก ร่วมกับพวกแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหา 2 รายเป็นชาวอำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม พร้อมของกลางไม้พะยุง รวม 61 ท่อน มีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านบาท

สกลฯม็อบเกษตรกรยากจนอีสาน 4 จังหวัดกว่า 500 คนชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลจัดสรรที่ดินทำกินให้

      

      เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 7 กันยายน 2554 ที่หน้าศาลากลางจังหวัดสกลนคร อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร นายบุญใส ก้อนดินจี่ ปะธานกลุ่มเกษตรกรภาคอีสาน 4 จังหวัด พร้อมด้วย นายอำพล สาขามุละ กรรมการกลุ่มจังหวัดสกลนคร เป็นแกนนำเกษตรกรกว่า 500 คน รวมตัวกันชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลจัดสรรที่ดินทำกิน ให้กับกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนจาก 4 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดสกลนคร กาฬสินธุ์ นครพนม และจังหวัดบึงกาฬ โดยเรียกร้องให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 322/53 ไปทบทวนแก้ไข และเพิ่มเติม เมื่อสมบูรณ์แล้วขอให้ได้ลงนามในคำสั่งดังกล่าว เพื่อดำเนินการสานต่อ อย่างเร่งด่วนและเป็นรูปธรรม และให้มีการออกคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการระดับจังหวัดและระดับภาค ที่เป็นตัวแทนของกลุ่มเกษตรกรได้มีส่วนร่วมพิจารณากับทางภาคราชการพิจจารณาแก้ไขปัญหาของกลุ่ม เกษตรกรร่วมกันเพื่อให้เกิดความชอบทั้งสองฝ่าย และให้รัฐบาลช่วยกระตุ้นประธานและคณะทำงานในคำสั่งดังกล่าว เร่งดำเนินการด้วยเพราะเรื่องนี้เรื้อรังมานาน ยังไม่ได้รับการแก้ไขตั้งแต่สมัยรัฐบาลชุดก่อน โดยยื่นหนังสือเรียกร้องดังกล่าว ผ่านายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เพื่อให้เป็นผู้ประสานงานการแก้ไขความเดือดร้อนของเกษตรกรต่อรัฐบาล

นายณัฏฐ์ธีร์ อุดมประมวล นายอำเภอกุดบาก พร้อมด้วยพ.ต.อ.สุรัตน์ ไตลังคะ ผกก.สภ.กุดบาก นำกำลังตำรวจ เจ้าหน้าที่ อส. เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก , และชุดปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการลักลอบตัดไม้พยุงและไม้มีค่าทางเศรษฐกิจ สบอ.10 อุดรธานี ลุยกวาดล้างขบวนการตัดไม้พยุง
  สกลฯผู้การตำรวจนำหมายศาล เข้าตรวจยึดไม้พะยูงบ้านลูกนักการเมืองพบกว่า 74 ท่อนมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ผู้การตำรวจจังหวัดสกลนครนำกำลังในสังกัด พร้อมทหาร อส. นำหมายศาลบุกตรวจค้นบ้านลูกชายนักการเมืองท้องถิ่นท่าแร่ พบไม้พะยุง จำนวน 74 ท่อน มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท

สกลฯแถลงข่าวเตรียมจัดงานสืบสานประเพณีของดีภูพานและเทศกาลหมากเม่า ครั้งที่ 10 1-5 ก.ย. ศกนี้

สกลฯแถลงข่าวเตรียมจัดงานสืบสานประเพณีของดีภูพานและเทศกาลหมากเม่า ครั้งที่ 10 1-5 ก.ย. ศกนี้
      
      เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 29 สิงหาคม 2554 ที่ลานสนามหญ้าศาลากลาง อ.เมือง จ.สกลนคร นายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่าราชการ จ.สกลนคร เป็นประธานการแถลงข่าวการจัดงาน สืบสานประเพณีของดีภูพาน และเทศกาลหมากเม่า ครั้งที่ 10 ประจำปี 2554 เป็นที่ทราบกันดีว่า ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2545 เป็นต้นมามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร ได้ร่วมกับ ชมรมหมากเม่าสกลนครและหน่วยงานราชการที่เป็นภาคีเครือข่ายร่วมจัดงานวันเทศกาลหมากเม่าสกลนครทุกปี โดยปีนี้เป็นปีแรกที่งานวันเทศกาลหมากเม่าสกลนคร ร่วมกับงานประเพณีของดีภูพาน ซึ่งจะจัดให้มีขึ้นระหว่างวันที่ 1-5 กันยายน พ.ศ. 2554 ณ ลานเอนกประสงค์ อำเภอภูพาน จังหวัดสกลนคร

ผู้ค้าสุนัขท่าแร่เดือด รวมตัวเรียกร้องให้รัฐยุติปัญหา

 

 

เมื่อเวลา 11.00 น.กลุ่มผู้ค้าสุนัข และรถเร่รับซื้อสุนัข กว่า 100 คน เดินทางมารวมตัวกันที่บ้านท่าแร่ หมู่ 8 ต.ท่าแร่ อ.เมือง จ.สกลนคร เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ต่อกรณีการจับกุมขบวนการค้าสุนัขข้ามประเทศ ที่ จ.นครพนม จนนำไปสู่กระแสสังคมต่อต้าน และเรียกร้องให้มีการออกกฎหมายทารุณกรรมสุนัข ทำให้กลุ่มผู้ค้าและรับซื้อสุนัขในพื้นที่ตำบลท่าแร่ ได้รับผลกระทบ

นายสายทอง ลาลุน ตัวแทนผู้ค้าสุนัข ต.ท่าแร่ กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องและเป็นข่าวออกไป ทำให้ตนเองและชาวบ้านที่ยึดอาชีพเร่รับซื้อสุนัข ได้รับผลกระทบ ไม่สามารถออกไปรับซื้อสุนัขได้ ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ ต้องขอความเป็นธรรมด้วย สิ่งที่ทำเป็นอาชีพที่ทำมานานแล้ว และทุกคนไม่มีอาชีพอย่างอื่นทำ ที่ผ่านมาเราไม่เคยออกไปเรียกร้องสิทธิ หรือให้รัฐบาลช่วยเหลืออะไรเลย แต่ทำอาชีพเลี้ยงครอบครัวโดยสุจริต ไม่ได้ไปลักเล็กหรือขโมยอะไร สุนัขที่จับมา ก็เป็นสุนัขที่เจ้าของไม่ต้องการ และบางครั้ง ก็เรียกให้เราไปจับให้ฟรีๆด้วยซ้ำไป

นายสายทอง กล่าวว่า หากกระแสสังคมต้องการให้เราเลิกอาชีพนี้ก็พร้อม แต่อยากฝากไปผู้เกี่ยวข้องทั้งผู้ว่าฯ หรือนายกฯยิ่งลักษณ์ ว่าให้หาอาชีพมาทดแทน เพราะหลายคนไม่มีอาชีพอื่นทำ แต่รายได้ต้องไม่ต่ำกว่า 14,000 บาท เพราะทุกคนมีภาระเลี้ยงครอบครัว ทั้งส่งลูกเรียน ผ่อนงวดรถ แม้ชาวบ้านจะไม่จบปริญญาตรี ที่ต้องได้เงินเดือนขั้นต่ำหมื่นห้า ที่ผ่านมาเราทำอาชีพนี้มานาน สามารถส่งลูกเรียนจบปริญญาตรี ทำงานเป็นข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐก็เยอะ แต่มาวันหนึ่งสังคมมาบอกว่าผิดและให้เราเลิก เพราะมันทารุณสัตว์ ทำให้จังหวัดเสื่อมเสีย ซึ่งในพื้นที่ตำบลท่าแร่ ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพเกี่ยวข้องกับการค้าเนื้อสุนัข ทั้งขับรถเร่ การชำแหละเนื้อ รวมๆแล้วมีผู้เกี่ยวข้องอาชีพนี้เกือบ 5 พันคน แล้วจะให้เราไปประกอบอาชีพอะไร แต่ในระหว่างที่จะให้มีการออกกฎหมาย หรือรอความชัดเจน พวกเราขอทำอาชีพนี้ต่อไป เพราะในเมื่อยังไม่มีกฎหมายมาเอาผิด ก็ควรให้โอกาสได้ประกอบอาชีพตามปกติ

สกลนครฝนตกหนักน้ำท่วมเมือง เรือนจำจังหวัดน้ำท่วมสูง 60 เซนติเมตร

สกลนครฝนตกหนักน้ำท่วมเมือง เรือนจำจังหวัดน้ำท่วมสูง 60 เซนติเมตร

วันนี้ 24 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดฝนตกโดยทั่วไปในพื้นที่จังหวัดสกลนคร โดยพบว่า ในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองสกลนครฝนได้ตกตั้งแต่เวลา 05.00 น. ส่งผลให้ถนนหลายสายเกิดน้ำท่วม เนื่องจากปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมากเป็นจำนวนมากทำให้การระบายน้ำไม่ทัน ทำให้ถนนรัฐพัฒนาตลอดทั้งสายน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร ทำให้การจราจรเป็นอัมพาตทั้งเมือง ทางเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองสกลนครต้องเร่งระบายใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง

ส่วนที่บริเวณเรือนจำ จ.สกลนคร ซึ่งเป็นที่ลุ่ม พบว่า น้ำได้เข้าท่วมสูงกว่า 60 เซนติเมตร เจ้าหน้าที่เรือนจำต้องย้ายนักโทษขึ้นบนเรือนนอนชั้น 2 และเร่งระบายน้ำลงสูงหนองหาร ซึ่งขณะนี้นำยังท่วมขังอยู่ภายในบริเวณเรือนจำ เนื่องจากยังสูบน้ำออกไม่ได้หมด เพราะฝนยังตกตลอดเวลา

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด เวลา 10.00 น. ยังมีฝนตกโดยทั่วไปในพื้นที่ จ.สกลนคร ซึ่งสถานีอุตุนิยมวิทยา จ.สกลนคร ยังคาดหมายผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรในระยะ 7 วันข้างหน้า มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ซึ่งในช่วงที่มีฝนตกหนักติดต่อกันอาจทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้ เกษตรกรจึงควรระวังอันตราย และป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว นอกจากนี้ ไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะโค และกระบือ อยู่ในที่ชื้นแฉะ เพื่อป้องกันสภาวะโรคปาก และเท้าเปื่อย.

สกลนครปลูกหญ้าแฝกเฉลิมพระเกียรติฯ 12 สิงหา

สกลนครปลูกหญ้าแฝกเฉลิมพระเกียรติฯ 12 สิงหา

ที่ลำห้วยท้ายหมู่บ้านพอกน้อย ต.พอกน้อย อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร นายชูเกียรติ คำโสภา ผู้อำนวยการสถานีพัฒนาที่ดินจังหวัดสกลนคร ร่วมกับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 26 , เทศบาลตำบลพอกน้อย และชาวบ้าน ร่วมกันปลูกหญ้าแฝกตามริมฝั่งลำห้วย เพื่อป้องกันการพังทลายของหน้าดิน และการทรุดตัว ตามโครงการรณรงค์ปลูกหญ้าแฝก เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนารถ เนื่องในวันเฉลิมพระชนม์ พรรษา 12 สิงหาคม และยังเป็นการสืบสานพระราชปณิธานในเรื่องของการอนุรักษ์ดินและน้ำ หลังจากที่ปลูกหญ้าแฝกแล้ว ยังมีการนำขนมจีนมาเลี้ยงเป็นอาหารกลางวันให้ กับนักเรียนโรงเรียนบ้านพอกน้อย เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลฯ เนื่องในเฉลิมพระชนมพรรษา

นอกจากนี้สถานีพัฒนาที่ดินสกลนคร ยังมีการขยายพันธุ์หญ้าแฝก ที่แปลงทดลองภายในหน่วย แจกจ่ายให้กับส่วนราชการและประชาชนที่สนใจนำไปปลูกด้วย

น้ำถ่วม สกลนคร

สกลนคร ฝนยังคงตกต่อเนื่อง น้ำท่วมสกลนครยังทรงตัวในพื้นที่ 10 อำเภอ ขณะนี้พบเสียชีวิตแล้ว 1 ราย

                    เมื่อวันที่4 สิงหาคม 2554ที่ผ่านมาระดับน้ำจากลำน้ำพุงซึ่งไหลจากเทือกเขาภูพาน ไหลลงสู่หนองหารได้ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านโพนนาไก่ ต.โนนหอม อ.เมือง จ.สกลนครระดับน้ำพุงที่ไหลลงจากเทือกเขาภูพานได้เอ่อเข้าท่วมในหมู่บ้าน ทหารจาหกรมทหารราบที่ 3 เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้กระสอบทรายปิดกั้น เกรงระดับน้ำสูงเข้าท่วมในหมู่บ้าน ล่าสุดเจ้าหน้าที่ต้องเฝ้าดุสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง

ปภ.สกลนครประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติ 10 อำเภอ หน่วยงานรัฐระดมช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำป่าที่ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร กว่า 30 หลังคา

หมู่บ้านโพนนาไก่ ต.โนนหอม อ.เมือง เนื่องจากน้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วมไร่นาและบ้านเรือนราษฎร กว่า 30 หลังคาเรือน โดยระดับน้ำสูงประมาณ 30-40 เซนติเมตร โดยชาวบ้าน ได้นำกระสอบทราย จำนวน 1 พันถุง ปิดกั้นริมถนนรอบหมู่บ้าน ซึ่งถูกน้ำไหลบ่าเข้าในหมู่บ้าน มีความยาวประมาณ 200 เมตร ประกอบกับน้ำจากลำห้วยปลาใย ล้นตลิ่งไหลบ่าเข้าท่วมซ้ำอีก

ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสกลนครและเหล่ากาชาด เดินทางไปมอบถุงยังชีพให้กับชาวบ้านดงชน ที่ประสบภัยน้ำท่วมจากอิทธิพลของพายุนกเตน ซึ่งเป็นพื้นที่ได้รับผลกระทบจากพายุ มีน้ำได้ท่วมบ้านเรือนและไร่นา เส้นทางถูกน้ำท่วมสูงจนไม่สามารถสัญจรไปมาได้ จังหวัดสกลนครประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ว 10 อำเภอ คือ อำเภอเมืองสกลนคร กุสุมาลย์ โพนนาแก้ว วานรนิวาส เจริญศิลป์ คำตากล้า พังโคน โคกศรีสุพรรณ พรรณานิคม อากาศอำนวย และเพิ่งประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติเพิ่มเติมอีก 1 อำเภอ คืออำเภอวาริชภูมิ น้ำท่วมนาข้าวเป็นวงกว้าง ประมาณ 1 แสนไร่ ถนนเสียหาย กว่า 200 สาย บ่อปลากว่า 100 บ่อ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างสำรวจความเสียหาย   ล่าสุด มีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือนายอุทิศ สุริยันต์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84 หมู่ที่ 4 ตำบลวัฒนา อำเภอส่องดาว จังหวัดสกลนคร เนื่องจากไปหาปลาที่ลำห้วยยาง บ้านโคกสุวรรณ ในตำบลเดียวกัน โดยเหตุเกิดในช่วงบ่ายของเมื่อวานนี้ ส่วนน้ำที่ท่วมจะเป็นการท่วมพื้นที่นาข้าวและพื้นที่การเกษตร ยังไม่มีรายงานน้ำเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่จังหวัดสกลนครแต่ประการใด พื้นที่อำเภออากาศอำนวย อำเภอวานรนิวาส เป็นที่ที่เสียหายหนักที่สุด ซึ่งระดับน้ำจะอยู่ที่ 1-2 เมตร

วัดถ้ำพวง

                สถานที่ท่องเที่ยวที่ดิฉันอยากจะขอแนะนำในครั้งนี้ ได้แก่วัดถ้ำพวง ที่อำเภอส่องดาว จังหวัดสกลนคร ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆบ้านของดิฉันวัดถ้ำพวงเป็นวัดที่สวยงามตั้งอยู่บนยอดเขา และเป็นสถานที่ดิฉันประทับใจมากดิฉันขอเล่าประวัติความเป็นมาของวัดถ้ำพวงก่อนที่จะพาท่านเข้าสู้สิ่งสวยงามน่ามหัศจรรย์ข้างในต่อไปนะค่ะ   ประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๔ พระอาจารย์วัน อุตฺตโม ได้เริ่มก่อตั้งวัดถ้ำอภัยดำรงธรรมและจำพรรษาอยู่ ณ วัดแห่งนี้ จนมีพระภิกษุสามเณรเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ในปี พ.ศ. ๒๕๑๔ ท่านพระอาจารย์วัน อุตฺตโม ได้นำคณะศิษยานุศิษย์ร่วมกันสร้างถนนขึ้นสู่ยอดเขาภูผาเหล็กซึ่งมีถ้ำอีกแห่งหนึ่งมีชื่อว่า "ถ้ำพวง" ด้วยความสามัคคีพร้อมเพรียงแห่งแรงศรัทธา ได้ร่วมกันสร้างถนนจนเสร็จเรียบร้อยเป็นระยะทางรวมทั้งสิ้น ๕ กิโลเมตร พร้อมทั้งได้สร้างวัดขึ้นด้วยคือ "วัดถ้ำพวง" บนยอดเขาภูผาเหล็ก (เป็นส่วนหนึ่งของวัดถ้ำอภัยดำรงธรรม) แต่ชาวบ้านโดยทั่วไปมักชอบเรียกว่า "วัดถ้ำพวง" วัดถ้ำพวงมีประดิษฐ์สถานสำคัญหลายอย่างที่สำคัญเช่น

สังเวชนียสถานแห่งที่ ๑ สถานที่ประสูติ 

           ประมาณปี 2541 เป็นต้นมา ทางวัดถ้ำอภัยดำรงธรรม-ถ้ำพวง และคณะกรรมการ ญาติโยม ลูกหลานทั้งที่อยู่ใกล้ไกลได้รวมกำลังสมัครสมานสามัคคีร่วมแรงร่วมใจลงมือก่อสร้างสังเวชนียสาถน  คือ  สถานที่ประสูติซึ่งได้ออกแบบเป็นเจดีย์สถูปทรงกลม   มีพิธีวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2541 โดยคุณไพศาล ปันทวังกูร ภายในเป็นห้องโถงใหญ่มีรูปหล่อพระนางสิริมหามายาเทวีประดิษฐาน   ปางยืนประสูติพระโพธิสัตว์ราชโอรส   หล่อด้วยทองเหลืองเท่าองค์จริง พระหัตถ์ขาวเหนี่ยวกิ่งสาระ   มีความเด่นสง่าพิสดารสวยงามมาก   ผนังทางด้านหลังรูปหล่อเขียนเป็นภาพวิวทิวทัศน์ภูเขาด้วยสีน้ำมองดูแล้วสวยงามมาก   บนฝ้าเพดานจะปั้นเป็นรูปพระธรรมจักรขนาดใหญ่มีลายไทยล้อมรอบทาด้วยสีทองเหลืออร่าม  ส่วนบนยอดเจดีย์บรรลุพระบรมสารีริกธาตุหลายพันองค์ โดยมีพระสุธรรมคณาจารย์(หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ) วัดอรัญญบรรพต อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย เป็นประธานเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2542 ทางด้านหน้าของเจดีย์มีเสาหินพระเจ้าอโศกมหาราชจำลองเท่าของจริงมีความเด่นเป็นสง่า

 สังเวชนียสถานแห่งที่ ๒ สถานที่ตรัสรู้

          เมื่อพระเจดีย์สิริมหามายาเสร็จสิ้นไปแล้วก็ได้ลงมือก่อสร้างเจดีย์ศรีมหาโพธิ์จำลองต่อไป เริ่มต้นเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2542 เป็นต้นมาโดยลงมือเทพื้นฐานรากของตัวเจดีย์ เมื่อเสร็จแล้วได้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์วันที่ 27 เมษายน 2542
โดยมีพระเดชพระคุณ พระเทพวราภรณ์ วัดโสมัสวิหาร กรุงเทพฯ   และพระเดชพระคุณ พระสุธรรมคณาจารย์ (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ)  วัดอรัญญบรรพต อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย เป็นประธานสงฆ์  โดยโครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ชั้นล่างเป็นห้องโถงใหญ่มีพระประธาน 5 องค์   เรียงลำดับตั้งแต่ปางเสวยวิมุติสุขจากการตรัสรู้ไปถึงปางนาคปรก ด้านหลังพระประธานจะเขียนด้วยสีน้ำมันเป็นรูปพระศรีมหาโพธิ์และประกอบด้วยวิวทิวทัศน์ป่าไม้ภูเขาเขียวชะอุ่มเย็นตา  ทัศนียภาพที่กว้างไกลออกไปจะเห็นภูเขาหิมาลัยขาวโพลนไปด้วยหิมะด้านหน้าศรีมหาโพธิ์จะมีลักษณะเป็นลำน้ำ   คงหมายถึงแม่น้ำเนรัญชรา  ชั้นบนมีพระประธานองค์ใหญ่ปางยืนสูงประมาณ 3 เมตร รอบนอกจะมีระเบียงและมีเจดีย์องค์เล็กอยู่ตามมุมทั้ง 4   ภายในเจดีย์เล็กจะมีพระพุทธรูปปางยืนทุกองค์  ด้านนอกของเจดีย์จะมีพระพุทธรูปองค์เล็กองค์ใหญ่เรียงรายอยู่ตามผนัง   จนถึงโคนยอดประมาณ 200 กว่าองค์ตามแบบของจริงที่อินเดีย     รอบพระเจดีย์ทั้งสามด้านมีรั้วเหมือนกับที่อินเดีย เว้นด้านทิศตะวันออกซึ่งติดกับเขา เสาเอกทางเข้าประตูใหญ่ได้มาตรฐาบนยอดเสาเป็นลวดลายกาบบัวงามวิจิตรพิสดารเป็นเอกลักษณ์

สังเวชนียสถานแห่งที่ ๓ สถานที่แสดงปฐมเทศนา

          ได้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2544 โดยมีพระเดชพระคุณ พระสุธรรมคณาจารย์ (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ) วัดอรัญญบรรพต อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย เป็นประธาน ภายในตัวสถูปเป็นห้องโถงใหญ่ มีพระพุทธรูปปางปฐมเทศนาโปรดปัญจวัคคีย์ทัง 5 หน้าตักกว้าง 60 นิ้ว หล่อด้วยทองเหลือง รอบผนังจะเป็นซุ้มประกอบลวดลายสวยงามประดิษฐานด้วยพระอสีติมหาสาวก 14  องค์หล่อด้วยทองเหลืองเท่าองค์จริง บนฝ้าเพดาน ปั้นเป็นรูปธรรมจักรขนาดใหญ่ประกอบไปด้วยลวดลายไทย   ทาด้วยสีทองเหลืองอร่ามเป็นที่งดงามยิ่งนัก
สังเวชนียสถานแห่งที่ ๔ สถานที่ดับขันธปรินิพพาน

         ก่อสร้างตามแบบเดิมทุกประการเพียงแต่ย่อส่วนให้เล็กลงตามความเหมาะสม ได้ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์โดยมีพระเดชพระคุณ พระเทพญาณวิศิษฐ์   เจ้าอาวาสวัดพระราม 9 กรุงเทพฯ   เป็นประธานสงฆ์เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2545สังเวชนียสถานทั้ง 4 ตำบลได้เกิดขึ้นบนผืนแผ่นดินไทยของเราซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่หาโอกาสได้ไม่ง่ายนัก  ใช้เส้นทางสายสกลนคร-อุดรธานี เส้นทางหลวงหมายเลข 22 ระยะทางประมาณ 84 กิโลเมตร ก็จะถึงอำเภอสว่างแดนดิน เลี้ยวซ้ายผ่านอำเภอส่องดาวไปถึงวงเวียนอนุสาวรีย์พระเวสสันดรระยะทางอีกประมาณ 27 กิโลเมตร จากอนุสาวรีย์หากแยกขวาจะไปวัดถ้ำอภัยดำรงธรรม ตรงไปประมาณ 5 กิโลเมตร จะถึงพิพิธภัณฑ์ พระอุดม สังวรวิสุทธิ สร้างเป็นรูปทรงจตุรมุข 2 ชั้น ประดับด้วยหินอ่อนทั้งหลัง ชั้นล่าง ตกแต่งเป็นห้องแสดงภาพวาดเกี่ยวกับประวัติของพระอาจารย์ตั้งแต่เกิด ส่วน ชั้นบน มีรูปปั้นของท่านในท่านั่งขัดสมาธิ พร้อมเครื่องสักการะบูชาที่ตกแต่งสวยงาม และตู้กระจกแสดงเครื่องอัฐบริขารของท่าน บริเวณใกล้เคียงกันมีถ้ำพวงซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระมุจรินทร์องค์ใหญ่ และยังมีสังเวชนียสถาน 4 ตำบลขนาดใหญ่อยู่ด้วยนอกจากนี้วัดถ้ำพวงยังมีน้ำตกเจ็ดชั้นให้ผักผ่อนคลายร้อนและยังมีหอดูดาวให้ได้ชมวิวต่างๆทั้งในตัวอำเภอส่องดาวและพื้นที่ใกล้เคียงอีกด้วย